Tuesday, 25 March 2008

เมื่อวาน

ปล่อยสายตาไปกับ ภาพวิวต่างๆ ที่ฉายผ่านหน้าต่างรถ
เพลงทั้งเพราะ และไม่เพราะคลอกันไป เพลงแล้วเพลงเล่า


ริมทะเล เราหย่อนตัวลงนั่งด้วยความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง
หรือเป็นน้ำหนักแห่งความคิดต่างหาก ที่ฉุดเราทรุดลงไป


ไออุ่นจากแดด ลมเย็นจากทะเล พัดผ่าน
บทสนทนาสั้นๆ ไร้สาระ เกิดขึ้นเป็นระยะ


รู้สึกสบาย ผ่อนคลาย ที่ได้หนีจากชีวิตประจำวันออกมา
แต่ความสุขปนเศร้าที่เป็นอยู่ มันมาไกลเกินคิดไว้


สายตาที่เพ่งมองถนน ค้นหาทางกลับบ้าน กลับดูเต็มไปด้วยความคิด
หลักกิโลที่ผ่านไป ครั้งแล้วครั้งเล่า บอกว่าเราใกล้ถึงบ้านแล้ว


กลับไม่มีใครดีใจ




มันเกิดขึ้น และมันจะเกิดขึ้น
เพราะการลาจากมันก็เป็นแบบนี้เสมอ



ความเหงาและเศร้า มันก่อตัวขึ้นภายใต้ความเงียบ...


ป.ล.เมื่อวานพี่แพะพาไปเที่ยวมา สนุกมากๆ นั่งรถกันปวดก้นเลย ออนเซนดีมากๆ อาหารอร่อย ไปสองวัน กินกันไม่เลิกเลยตลอดทริป

Friday, 21 March 2008

ONCE: Falling Slowly



Glen Hansard - Falling Slowly Lyrics

I don't know you
But I want you
All the more for that
Words fall through me
And always fool me
And I can't react
And games that never amount
To more than they're meant
Will play themselves out

Take this sinking boat and point it home
We've still got time
Raise your hopeful voice you have a choice
You've made it now

Falling slowly, eyes that know me
And I can't go back
Moods that take me and erase me
And I'm painted black
You have suffered enough
And warred with yourself
It's time that you won

Take this sinking boat and point it home
We've still got time
Raise your hopeful voice you had a choice
You've made it now

Take this sinking boat and point it home
We've still got time
Raise your hopeful voice you had a choice
You've made it now
Falling slowly sing your melody
I'll sing along


เพลงจากหนังเรื่อง ONCE
อ่านรีวิวจากบล็อก PRADT น่าดูอย่างรุนแรง
เลยแก้ขัดด้วยการไปหาเพลงมาฟังแล้วก็เจอเพลงนี้แหล่ะ

Tuesday, 18 March 2008

omoide

สามปีครึ่ง กับตัวเอง
ทุกอย่างผ่านไป คล้ายจะช้า คล้ายเร็ว

สามปีครึ่ง ในห้อง ที่ไม่ใช่บ้าน
สามปีครึ่ง ในสถานศึกษา ที่ไม่ใช่โรงเรียน
สามปีครึ่ง ในหมู่คน ที่ไม่ใช่เพื่อน

คน ที่ไม่ใช่คนของเรา
สถานที่ ที่ไม่ใช่ที่ของเรา

เรารอคอยตอนจบของมันมาเนิ่นนาน
วันนี้ตอนจบนั้นได้มาถึง อย่างสมบูรณ์แล้ว...






แต่เรากลับ ไม่อยากให้มันจบเสียแล้วล่ะ


เพราะตอนนี้ ช่วงเวลาสามปีครึ่ง
มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราไปเสียแล้ว

หนังสือเล่มเล็กๆ ที่หน้าปกเขียนด้วยภาษาญี่ปุ่นว่า OMOIDE
ที่แปล่วา ความทรงจำ (ในด้านดี)

ที่ระบายแต่งแต้ม ไปด้วยลายมือของเพื่อนทุกคน
ในเอกกราฟฟิก


แม้อะไรๆ มันจะมาช้าไปบ้าง
แต่ก็ดีใจ ที่ได้รู้ว่าการกระทำที่ผ่านมาของเรา มีค่ากับคนอีกหลายๆคน

คนเราคงไม่มีใครด้านชา ต่อความรู้สึกดีๆ ที่มีให้กัน
แต่แค่มันแสดงออกมาในรูปแบบ และโอกาส ที่ต่างกันเท่านั้นเอง

สามปีครึ่ง แห่งความทรงจำนี้
จะเป็นอีกหนึ่งในไม่กี่สิ่ง ที่เราตั้งใจจะรักษามันไว้เป็นอย่างดี
ขอบคุณทุกคนมากๆ

ป.ล.เรื่องมันยาวมากๆ เล่าย่อๆ วันนี้เป็นวันพิธีจบการศึกษา ระหว่างงานเลี้ยงเพื่อนมันก็เดินมาล้อมเรา ก็งง ทำไรกันวะ ปรากกฏว่ามันให้หนังสมุดเล่มนี้มา มีมินามิกับอาซามิ เป็นคนเลือกให้เราเอง จากสมุดโน้ตที่เป็นของสะสม แล้วเอามาให้เพื่อนๆ เขียนข้อความให้กับเรา โอ้...ซึ้งมาก ยังไม่จบแค่นั้น ตอนเย็นไปเลี้ยงกันต่อ กำลังได้ที่ เพื่อนๆ ก็โยนของขวัญมาให้แกะ แล้วบอกว่าเพื่อนในห้อง รวมเงินกันซื้อมาให้ เป็นชุดยูกะตะครบเซตพร้อมรองเท้า คือเราหาซื้อมานานแล้ว แต่มันหาไม่ได้ เพราะไซส์รองเท้า บวกกับไม่ใช่ฤดูที่จะใส่ชุดนี้ด้วย แต่มันหามาให้เราจนได้ วันนี้วันเดียว เปลี่ยนชีวิตเราเลยจริงๆ

Tuesday, 11 March 2008

ปิดโปรเจค

ปิดโปรเจคแล้ว
ขออนุญาติหนีเที่ยว 6 วันครับ

เดี๋ยวกลับมาแล้วจะอัพรูป และอื่นๆ ที่ดองไว้
ตั้งแต่เมื่อ กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...

ออกเดินทาง สี่ทุ่มห้าสิบ ณ วันนี้

ป.ล.ขรชก ในวัง มาดูงานที่โรงเรีย ให้กับพระเจ้าหลานเธอฯ (ไม่ได้เสด็จมาด้วยนะครับ) ก็ไปต้อนรับ พูดคุยมาครึ่งวัน ทำงานฟรี เมื่อยดี แต่ได้พูดภาษาไทยด้วย ฮ่าๆ

Saturday, 8 March 2008

ไม่อยากเปลี่ยน

ทุกคนมีเส้นทางของตัวเอง
วันนึง ก็ต้องแยกย้าย ต่างคนต่างไป

ทุกสิ่งทุกอย่าง ย่อมเปลี่ยนแปลง
ไปในทางของมัน

ก็รู้ และเข้าใจ
แต่มันจะเป็นเช่นนั้นจริง กับทุกคนไหม

สิ่งดีที่เป็นอยู่ จำเป็นจะต้องเปลี่ยน
กลายเป็นไม่ดี เหมือนที่เคย

สิ่งที่ไม่ดี จะกลับกลาย
เปลี่ยนเป็นสิ่งดี เสมอไป จริงหรือ

ถ้าไม่อยากเปลี่ยน จะได้ไหม
ถ้าไม่ยอมรับการเปลี่ยน จะได้ไหม

โลกตอนนี้ ไม่มีที่สำหรับ
เด็กที่ไม่รู้จักโตใช่ไหม